ช็อคโกแลตกับการเกิดสิว

สวัสดีค่ะ สาวๆ ใครชอบทานช็อคโกแลตบ้างคะ ยกมือขึ้นค่ะ >< แอดมินก็ชอบทานเหมือนกันค่ะ

เคยได้ยินมาบ้างรึเปล่าคะว่า ถ้าเป็นสิวอยู่ อย่ากินช็อคโกแลต

หลายๆคนคงสงสัยว่า แล้วการกินช็อคโกแลตกระตุ้นให้สิวแย่ลงจริงไหม? วันนี้ Jaslyn มีคำตอบค่ะ

สิว เกิดจาก การอุดตันของรูขุมขน และต่อมไขมัน ส่วนมากมักพบบริเวณที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่ และหนาแน่น ได้แก่ บริเวณใบหน้า หนังศรีษะ หน้าอก และแผ่นหลัง มักพบในวัยรุ่น บางคนก็มีอาการเป็นๆหายๆ ไปจนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ก็มีค่ะ

ต่อไปเราจะมาเล่าถึง การศึกษาทดลองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของ ช็อคโกแลต กับ การเกิดสิวค่ะ มีหลายการศึกษาพอสมควร
ในอดีต เคยมีการสรุปไว้ว่า ช็อคโกแลตไม่มีความสัมพันธ์กับการเกิดสิว แต่ในปัจจุบัน ได้มีการทดลองมากขึ้นหลายการทดลอง และในหลายการทดลองก็สรุปว่า การรับประทานช็อคโกแลตมีผลต่อการเกิดสิวอักเสบ และสิวอุดตันค่ะ Jaslyn เลือกมาบางการศึกษามาสรุปให้ฟังนะคะ

1. Dark chocolate exacerbates acne (2016)

การทดลองนี้ศึกษาผลของการรับประทาน Dark chocolate ว่าจะมีผลกระตุ้นให้สิวแย่ยิ่งขึ้นหรือไม่ ทำการศึกษาใน อาสาสมัครผู้ชาย 25 คนที่มีสิว โดยให้รับประทาน 99% Dark chocolate ปริมาณ 25 กรัม ต่อ วัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่า มีการเพิ่มขึ้นของ acne score, จำนวนสิวอุดตัน (comedone) และ จำสิวอักเสบ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในสัปดาห์ที่ 2 จนถึงสัปดาห์ที่ 4 ของการศึกษา
สรุป ง่ายๆ การรับประทาน Dark chocolate ปริมาณ 25 กรัม ต่อวัน สามารถเป็นสาเหตุหนึ่งกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบและสิวอุดตันได้ ค่ะ

2. Double-blind, Placebo-controlled Study Assessing the Effect of Chocolate Consumption in Subjects with a History of Acne Vulgaris (2014)

การทดลองนี้ศึกษาผลของการรับประทานช็อคโกแลตกระตุ้นให้สิวกำเริบมากขึ้นหรือไม่ ทดลองในอาสาสมัครชาย อายุ 18-35 ปี ที่มีประวัติเป็นสิวในระดับเล็กน้อย (Mild) อยู่แล้ว จำนวน 14 คน โดยให้รับประทาน 100% โกโก้ แบบไม่มีการเติมสารให้ความหวาน ผสมกับ ผงไฮโดรไลท์ เจลาติน เตรียมมาให้รับประทานในรูปแบบแคปซูล แบ่งออกเป็น 6 สูตร ที่มีอัตราส่วน ของ 100% โกโก้ : ผงไฮโดรไลท์ เจลาติน ที่แตกต่างกัน คือ 6:0, 5:1, 4:2, 3:3, 2:4,1:5 ตามลำดับ แล้วสุ่มให้อาสาสมัครรับประทาน 2 คน : 1 สูตร ทำการวัดผลหลังเริ่มการทดลองในวันที่ 4 และ 7 พบว่า

– จำนวนของการเกิดสิว (comedone, papule, pustule, nodule) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากเบสไลน์ ทั้งในวันที่ 4 (P = 0.006) และ วันที่ 7 (P = 0.043) แต่เมื่อเปรียบเทียบระหว่างวันที่ 4 และ 7 การเพิ่มขึ้นของสิวไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
– เมื่อวัดการเพิ่มขึ้นเฉพาะของสิวที่ไม่มีการอักเสบ (comedone) พบว่า มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทั้งในวันที่ 4 และ 7
– เมื่อวัดเฉพาะสิวที่มีการอักเสบ พบว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เฉพาะวันที่ 4
– พบว่าปริมาณการรับประทานช็อคโกแลต มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการเกิดสิวในแต่ละบุคคล ทั้งในวันที่ 4 ( r=0.250) ในระดับน้อย และวันที่ 7 (r=0.314) ในระดับปานกลาง

• คำจำกัดความของ Mild acne ในการทดลองนี้ คือ ต้องมี comedone หรือ papule ไม่น้อยกว่า 1 จุด แต่มีไม่เกิน 4 จุด ไม่พบ pastule บนใบหน้า และเคยมีประวัติของ Acne vulgaris
• ในการทดลองนี้จะไปเอาอาสาสมัครที่เป็นเบาหวาน, โรคอ้วน, และไขมันในเลือดสูง เพื่อตัดปัจจัยเหล่านี้ที่เคยถกเถียงว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับการเกิดสิวออกไป
• การทดลองนี้ไม่เลือกผู้หญิงในการทดลอง เพื่อตัดเรื่องความสัมพันธ์ของ การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน การเกิดรอบเดือนซึ่งสัมพันธ์กับการเกิดสิวออกไป

สรุปง่ายๆ นะคะ การทดลองนี้ช็อคโกแลตสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ค่ะ และปริมาณการรับประทานช็อคโกแลตมีความสัมพันธ์ ไปในทางเดียวกับการเกิดสิว

3. Chocolate consumption modulates cytokine production in healthy individuals (2013)

จากการศึกษานี้ พบว่า ในอาสาสมัคร ที่มีการรับประทาน ช็อคโกแลต เมื่อนำเลือดมาตรวจ จะพบว่ามีการหลั่งของ interleukin-1β (IL-1β) และ IL-10 ซึ่ง 2 ตัวนี้จะให้เกิดการเจริญของเชื้อ Propionibacterium acne และ Staphylcoccus aureus ที่ทำให้เกิดสิว แต่พบว่า IL-22 (มีผลเกี่ยวกับการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ) กลับมีปริมาณลดลง

สรุปง่ายๆ คือ จากการทดลองนี้การรับประทานช็อคโกแลตอาจจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิวมากขึ้น

การรับประทานช็อคโกแลต รวมถึงขนมหวาน เค้ก น้ำตาล หรืออาหารที่มีไกลซีมิกอินเด็กซ์สูง มีรายงานพบว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ค่ะ แต่ไม่ใช้ทั้งหมด เพราะการเกิดสิวยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น ฮอร์โมน, พันธุกรรมที่มีส่วนในการกำหนดสภาพผิว, การรักษาความสะอาด, พฤติกรรม เช่น การเอามือจับหน้าบ่อยๆ แกะสิวบ่อยๆ, การใช้เครื่องสำอางที่อาจก่อให้เกิดการอุดตัน, เชื้อแบคทีเรีย , ความเครียด ปัจจัยเหล่านี้ก็ล้วนกระตุ้นให้เกิดสิวได้ทั้งหมดค่ะ

สำหรับใครที่อยากอ่าน เปเปอร์ตัวเต็มนะคะ ตามลิงค์ด้านล่างค่ะ

  1. Dark chocolate exacerbates acne โดย Saivaree Vongraviopap และ คณะ ตีพิมพ์ในวารสาร International Journal of Dermatology, Volume 55, Issue 5, May 2016.Pages 587–591
  2. Double-blind, Placebo-controlled Study Assessing the Effect of Chocolate Consumption in Subjects with a History of Acne Vulgaris ตีพิมพ์ในวารสาร J Clin Aesthet Dermatol. 2014 May; 7(5): 19–23.
  3. Chocolate consumption modulates cytokine production in healthy individuals.Cytokine. 2013 Apr;62(1):40-3

ช็อกโกแลต, สิว, อาหาร

เพิ่มเพื่อน
Share this: