นอนอย่างไร? ให้สวย

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เรามีเคล็ดลับการนอน ที่จะเพิ่มความสวยให้กับทุกคนมาฝากค่ะ

เพื่อนๆเคยได้ยินคำพูดที่ว่า

“เด็กนอนเร็วจะโตไว”

“นอนเร็วตื่นเช้ามาหน้าเด้ง สดชื่น” บ้างมั๊ยคะ

การนอนสำคัญอย่างไร

ทุกคืนหลังจากที่เราหลับสนิท ร่างกายจะมีการหลั่ง “โกรทฮอร์โมน” (Growth Hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้มีผลทำให้ร่างกายเกิดการเจริญเติบโต เสริมสร้างกระดูก เสริมสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ดังนั้น เด็กๆที่นอนเร็วแล้วโตไวจึงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงค่ะ

ส่วนในผู้ใหญ่ โกรทฮอร์โมน จะช่วยในเรื่องซ่อมแซม และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, ช่วยในการเผาผลาญไขมัน, ช่วยกระตุ้นกระบวนการสมานแผล, ช่วยลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า, ส่งผลให้จิตใจสดชื่นแจ่มใส เพราะพบว่า การหลั่งของโกรทฮอร์โมน มีผลให้การหลั่งของ เอนโดรฟิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเกี่ยวกับความสุข ระงับปวดหลั่งได้ดีขึ้น, กระตุ้นการสูบฉีดเลือดของหัวใจ ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง ดังนั้น คำกล่าวที่บอกว่า “นอนเร็วตื่นเช้ามาหน้าเด้ง สดชื่น” ก็เป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงเช่นกัน แต่ไม่ถึงขั้นริ้วรอยจางลง หายเกลี้ยง อันนั้นก็เวอร์ไปนะคะ 555

ซึ่งเวลาที่เหมาะสมในการนอน และทำให้โกรทฮอร์โมนหลั่งออกมาได้ดีนั้น คือ ช่วง 4 ทุ่ม จนถึง ตี 2 ช่วงนี้ถือว่าเป็นเวลาทองของการย้อนวัย หากใครนอนดึก เล่นเกมส์เพลิน เล่นโซเซียลเพลิน ทำงานหนักๆ คุณจะพลาดช่วงเวลาสำคัญ ในการฟื้นฟูผิว คืนความอ่อนเยาว์ให้ร่างกายไปเลยค่ะ

ดังนั้น “เรามานอนหลับ 4 ทุ่ม – ตี 2 กันนะคะ แล้วเราจะสวย หน้าเด็ก ไปพร้อมๆกัน”

บางคนอาจจะสงสัยว่าเป็นช่วงเวลาอื่นได้มั๊ย คำตอบ คือได้ค่ะ แต่จะต้องมีการจัดห้องให้มืดสนิท ควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับการนอน มีการจัดสิ่งแวดล้อมให้ดีไม่รบกวนการนอน โดยเฉพาะในเรื่องเสียงรบกวน และที่สำคัญที่สุด เราต้องนอนให้ตรงเวลาซ้ำๆกันทุกวัน เพราะร่างกายจะมีการจดจำกิจวัตรเรามาเรื่อยๆตั้งแต่เด็ก เพื่อหลั่งฮอร์โมนและสารสื่อประสาทต่างๆให้เหมาะสมกับกิจวัตร ทั้งการตื่น การหลับ การกิน การทำงาน หากเรามีการเปลี่ยนเวลาบ่อยๆ เช่น คนทำงานเป็นกะ หรือเดินทางข้ามประเทศบ่อยๆ ก็จะส่งผลให้ระบบการจดจำนี้ ซึ่งคล้ายๆนาฬิกาชีวิตให้ค่อยๆรวนไปเรื่อยๆ การหลั่งฮอร์โมนต่างๆก็จะค่อยๆผิดเพี้ยน และส่งผลเสียต่อสุขภาพเราในที่สุดค่ะ ซึ่งโดยรวมๆแล้ว ช่วงเวลา 4 ทุ่ม – ตี 2 จึงเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างเหมาะสม เพราะเราส่วนใหญ่นอนในช่วงเวลานี้กันตั้งแต่เด็ก และบรรยากาศช่วงเวลานี้จะค่อนข้างเงียบเพราะคนส่วนใหญ่ก็หลับกันอยู่ จึงเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างสะดวกค่ะ

ข้อดีอีกอย่างของการตื่นเช้า คือ เมื่อเราตื่นเช้า เราจะไม่เร่งรีบ มีเวลาในการทำนู่นนั่นนี่ ในตอนเช้า มีเวลาสูดอากาศยามเช้า และนั่งมองความสวยงามของสิ่งรอบตัวในยามเช้า ซึ่งบรรยากาศรอบตัวแบบนี้ จะส่งผลให้สมองหลั่ง ซีโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทเกี่ยวกับความสุขออกมา ช่วยทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่หากเรามีสารสื่อประสาทตัวนี้น้อย ก็อาจจะทำเรามีอาการหดหู่ ซึมเศร้าได้ค่ะ

พูดถึงเรื่อง นอนหลับ เราจะไม่กล่าวถึง ฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นเจ้าบ้านคงจะไม่ได้

ฮอร์โมนเมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมาในช่วงกลางคืน ในตอนที่เราหลับ และช่วยให้เรานอนหลับได้สนิท หากนาฬิกาชีวิตของเรารวน ยาเมลาโทนิน ก็จะเป็นตัวช่วยหนึ่งในการปรับสมดุลฮอร์โมนและสารสื่อประสาทค่ะ

การนอนหลับของเราจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ใหญ่ๆ คือ REM (Rapid eye movement) และ Non-REM (Non-Rapid eye movement)

โดยในช่วง Non-REM จะเป็นช่วงที่เราหลับลึก สมองจะได้รับการพักผ่อนในช่วงนี้อย่างเต็มที่ สมองจะมีการหลั่ง โกรทฮอร์โมนออกมาในช่วงนี้ ซึ่งอย่างที่บอกไป ฮอร์โมนตัวนี้แหละที่จะช่วยซ่อมแซมร่างกาย ฟื้นฟูผิวให้กับเรา

ช่วง REM จะเป็นช่วงที่หลับตื้น ช่วงนี้จะแทบไม่มีการหลั่งของโกรทฮอร์โมนออกมา ยิ่งในตอนใกล้ๆตื่น ช่วง REM จะเป็นช่วงที่สมองของเรากำลังจัดระเบียบความทรงจำต่างๆ เราก็จะฝันกันในช่วงนี้แหละค่ะ

ในการหลับแต่ละคืน จะมี Stage ของ Non-REM และ REM สลับกันไป 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 90 นาที เกิดขึ้น ประมาณ 5-6 รอบ (Cycle) จนเราตื่น

อาหารบางอย่าง ก็ช่วยทำให้เรานอนหลับได้ง่ายขึ้น ลองรับประทานอาหารพวกนี้ก่อนนอน 30 นาที – 1 ชั่วโมง จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นค่ะ

  1. นมอุ่น สัก 1 แก้ว
  2. นมถั่วเหลือง
  3. กล้วย 1 ลูก
  4. น้ำผึ้ง
  5. น้ำเชอร์รี่
  6. ชาคาโมมายด์อุ่นๆ 1 แก้ว

แล้วพบกันใหม่ในทุกๆวันกับบทความเพื่อสุขภาพ และความงามจาก Jaslyn ค่ะ

%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%99-%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a2

 

เพิ่มเพื่อน
Share this: