9 เคล็ดลับที่จะช่วยให้ การตื่นเช้า เป็นเรื่องง่าย
สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกคน เบื่อกับการตื่นเช้ามั๊ยคะ?
เช้านี้เรามีเคล็ดลับดีๆมาฝาก ที่จะช่วยทำให้ การตื่นเช้า เป็นเรื่องง่ายขึ้น
และเปลี่ยนยามเช้าที่น่าเบื่อ เป็นเช้าที่สดใสค่ะ
เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ด้วยการหลงรัก บรรยากาศยามเช้า
ลองเริ่มต้นการหลงรักยามเช้า ด้วยการตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้าดูค่ะ การตื่นมาชมพระอาทิตย์ในยามเช้าจะช่วยเติมเต็มความสดชื่น ทำให้เรารู้สึกกระปรี้กระเปร่าในตอนเช้า รู้สึกอารมณ์ดี ส่งเสริมพลังแห่งการคิดบวก
วางตำแหน่งนาฬิกาปลุก ให้มือเอื้อมไม่ถึง
หากนาฬิกาปลุก หรือโทรศัพท์มือถืออยู่ใกล้มือ เราก็มักจะกดเลื่อนเวลาไปเรื่อยๆ จนบางครั้งไปทำงานสายเลยก็มี ซึ่งการเลื่อนเวลาปลุกไปก็ไม่ได้ทำให้เราหลับเต็มอิ่ม หรือรู้สึกเพลียน้อยลงสักเท่าไหร่ แถมยังทำให้เราต้องเร่งรีบในยามเช้าอีกตะหาก การวางตำแหน่งไว้ไกลมือจะทำให้เราต้องลุกขึ้นเพื่อไปปิดค่ะ เมื่อเราได้ยินเสียงปลุกครั้งแรกควรลุกทันทีเพื่อฝึกให้ร่างกายเคยชินกับการตื่นที่เวลาเดิมทุกๆวัน และเราควรนอนเวลาเดิมทุกๆวันด้วยเช่นเดียวกันค่ะ หากทำแบบนี้เป็นประจำ เราจะตื่นได้ง่ายขึ้น แบบไม่งัวเงีย และรู้สึกตื่นตัวในยามเช้า ฮอร์โมนและสารสื่อประสาทต่างๆ ก็จะหลั่งและทำงานได้ดีด้วย เช่น โกร์ทฮอร์โมน เมลาโทนิน ซีโรโทนิน เป็นต้น
ให้แสงสว่างเป็นตัวช่วย
เปิดม่านไว้เล็กน้อยเพื่อให้แสงสว่างจากธรรมชาติสามารถลอดเข้ามาสู่ห้องนอนจะช่วยทำให้ตื่นนอนได้ง่ายขึ้น เป็นกลไกตามธรรมชาติค่ะ ที่แสงจะช่วยกระตุ้นสมองให้เรารู้สึกตื่นตัว แต่หากไม่สะดวกอาจจะใช้นาฬิกาปลุกแบบปลุกด้วยแสงก็เป็นอีกวิธีที่น่าสนใจค่ะ
เติมพลังบวกในทุกเช้า ด้วย Morning Questions
ตั้งคำถามที่ส่งเสริมการสร้างพลังบวกให้กับตนเอง เขียนไว้ใน Post it! และแปะไว้ที่หน้ากระจก ตอบคำถามเหล่านี้ในทุกๆเช้า พร้อมกับรับรู้ถึงความรู้สึกดีๆหลังตอบคำถาม การคิดบวกในทุกเช้าจะเสริมสร้างพลังบวก ซึ่งทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และรู้สึกดีไปทั้งวันค่ะ
วางแผนกิจกรรมน่าสนใจในยามเช้า
วางแผนกิจกรรมยามเช้าไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อให้รู้สึกสนุกตื่นเต้นกับยามเช้า เช่น จะเปลี่ยนวิธีการไปทำงานในเช้านี้จากการขี่รถยนต์เป็นจักรยานแทน, เปลี่ยนเส้นทางไปทำงานเส้นทางใหม่, ตื่นมาเพื่ออ่านบทความที่ชื่นชอบในยามเช้า, หรือ ตื่นมาเพื่อดูคลิปทำอาหารที่ชอบ เป็นต้น การทำสิ่งที่ชอบ และท้าทายในตอนเช้าจะช่วยกระตุ้นให้เรารู้สึกตื่นเต้น และง่วงน้อยลง
ออกกำลังกายเรียกเหงื่อทุกเช้า
ออกกำลังกายเบาๆในยามเช้าเพื่อเรียกเหงื่อ เช่น วิ่งเหยาะๆ เดินรอบสวนสาธารณะ รำไทเก็ก โยคะ ฯลฯ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกาย เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นในรู้สึกสดชื่นได้ด้วยค่ะ
เติมพลังด้วยอาหารเช้า
มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด เพราะจะช่วยเติมพลังงานให้แก่สมองและร่างกายตลอดทั้งวัน การงดอาหารเช้าจะทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ลดลง และไม่ควรงดอาหารเช้าเลยโดยเฉพาะในคนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก มีการศึกษาพบว่าในคนที่งดอาหารเช้ามักมีพฤติกรรมกินจุกจิก และมักเลือกกินอาหารที่หากินได้ง่าย ซึ่งมักเป็นอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง นอกจากนี้ยังพบว่าคนที่งดอาหารเช้ายังมีแนวโน้มที่จะอ้วนง่ายกว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำถึง ,กลุ่มผู้หญิงที่กินอาหารเช้าที่มีแคลอรีมากกว่ามื้ออื่นจะลดน้ำหนักลงได้ดีกว่า และ คนที่ลดความอ้วนแล้วคุมน้ำหนักได้เป็นคนที่กินอาหารเช้า ซึ่งเชื่อว่า เหตุผลน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่อาหารเช้าช่วยให้หิวน้อยตลอดวัน แต่อย่างไรก็ตามต้องไม่กินมากเกินไปนะคะ และขึ้นอยู่กับคุณภาพ ปริมาณ และความสมดุลของสารอาหารด้วยค่ะ
นอนหลับให้เต็มอิ่มตลอดคืน
การจะตื่นเช้าแบบสดใส ไม่งัวเงีย เราต้องเตรียมตัวดีตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ การหลับให้เต็มอิ่ม เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง นอกจากจะทำให้เรารู้สึกสดชื่นแล้ว ยังมีผลทำให้เราแก่ช้าลงด้วยนะคะ
การที่เราจะมีคุณภาพของการหลับที่ดี เราต้องจัดสถานที่และบรรยากาศให้เหมาะสมกับการนอนด้วยค่ะ เช่น หากเราเป็นคนหลับยากควรหลีกเลี่ยงการนำนาฬิกาแบบอะนาล็อก ที่เดินดังติ๊กต๊อกๆ ไว้ในห้องนอน เพราะจะรบกวนการนอนได้, จัดแสงให้เหมาะสม ห้องนอนควรมืดสนิท, ปิดทีวี จอคอมพิวเตอร์ก่อนนอน, ตั้งโทรศัพท์มือถือ ไม่ให้มีการรบกวนระหว่างการนอน ฯลฯ
ดื่มชาเขียว หรือ กาแฟร้อนๆ สักแก้ว
ในชาเขียว และ กาแฟจะมีคาเฟอีน อยู่จะช่วยกระตุ้นระบบประสาทได้ ทำให้ตื่นตัว และมีสมาธิ หลายคนนำข้อนี้มาเป็นทางเลือกแรกๆ แต่เราแนะนำว่าเป็นทางเลือกสุดท้ายจะดีกว่าค่ะ หากเตรียมตัวมาดีตั้งแต่ข้อ 1-8 ข้อนี้ก็ไม่จำเป็น เนื่องจากคาเฟอีนก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน เพราะจะทำให้นอนไม่หลับ ใจสั่น ความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดแผลในกระเพาะได้ง่ายขึ้น และควรหลีกเลี่ยงในสตรีมีครรภ์ เด็ก ผู้มีโรคกระเพาะ ผู้มีโรคกรดไหลย้อน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง
หากจะดื่ม แนะนำเป็นชาเขียวร้อนแบบชง หรือกาแฟดำค่ะ

Share this: