ครีมปรอท อันตรายที่มากับความขาว
ผลในเรื่องความขาว กระจ่างใส เป็นผลลัพธ์ยอดฮิตที่สาวๆส่วนใหญ่ต้องการ ทำให้ครีมผิวขาว หรือ Whitening เป็นครีมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน ยิ่งครีมเห็นผลลัพธ์เร็ว ขาวขึ้นทันที ขาวขึ้นรวดเร็วเพียงข้ามคืน ขาวขึ้นภายใน 3 วัน … 7 วัน ยิ่งเป็นที่ต้องการ และได้รับความนิยมเพราะขาวไวทันใจ
แต่ทราบมั๊ยคะว่า ครีมผิวขาว (Whitening) เหล่านี้พบว่ามีจำนวนไม่น้อยราว 20% แอบใส่สารอันตรายที่ อย. ไม่อนุญาติอยู่ หนึ่งในบรรดาสารอันตรายที่ใส่ในครีมหน้าขาว คือ สารปรอท (จริงๆแล้วยังมีสารอันตรายอีกหลายตัวที่มักตรวจเจอในครีมหน้าขาว เช่น ไฮโดรควิโนน ซึ่งพอใช้ไปแล้วมีผลข้างเคียงทำให้เกิด ฝ้าถาวร ผิวกระดำกระด่าง ตาดำพิการ!!! เราได้เขียนไปแล้วในบทความก่อนหน้าสามารถอ่านบทความเต็มได้ตามลิงค์นี้ค่ะ >>> ไฮโดรควิโนน สารอันตราย เร่งผิวขาว ) สเตียรอยด์, กรดเรติโนอิก
แต่เอาเป็นว่า เรามาพูดถึงเรื่องอันตรายจากการใช้ครีมที่มีสารปรอทกันก่อนนะคะ
สารปรอท เป็นสารต้องห้ามในเครื่องสำอางที่ อย. ห้ามใส่ลงไปในเครื่องสำอางโดยเด็ดขาด ครีมตัวไหนมีสารปรอทผสมอยู่ถือว่าผิดกฎหมาย ปรอทสามารถทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำหน้าที่สร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิว เมื่อเม็ดสีเมลานินซึ่งมีสีน้ำตาล,สีเหลือง ที่ผิวถูกสร้างลดลงผิวจึงขาวขึ้น แม้จะช่วยให้ผิวขาวเร็ว แต่พบว่าสารปรอทนั้นมีอันตรายมากเช่นกัน
สารปรอทสามารถทำให้เกิด ผื่นแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ เกิดฝ้าถาวร ผิวบางลง และหากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเกิดการสะสมของสารปรอทที่ผิวหนัง และถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ตับและไตอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ สมองอักเสบได้ค่ะ และหากใครที่กำลังตั้งครรภ์อยู่แล้วไปใช้ครีมที่มีสารปรอท สารปรอทสามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและไปถึงทารกในครรภ์ได้ด้วยทำให้เด็กเกิดภาวะสมองพิการ!!!
มีการศึกษาผลของสารปรอทในหนู โดยทาครีมสำหรับผิวขาวกระจ่างใสที่มีส่วนผสมของสารปรอทอยู่เป็นระยะเวลานาน 1 เดือน พบว่าสามารถตรวจพบสารปรอทสะสมในเนื้อเยื่อของตับ, สมอง, ไต และพบว่าแม้ทาไปเพียง 3 วัน ก็สามารถตรวจพบปรอทในเนื้อเยื่อหนูได้แล้ว และพบว่าปริมาณสารปรอทที่สะสมขึ้นกับจำนวนครั้งในการทา ยิ่งทาเยอะ ทาบ่อย ยิ่งพบปริมาณสะสมมาก และพบว่าการใช้ต่อเนื่องอาจจะส่งผลให้เกิดการทำลายเกิดความเสียหายอย่างถาวรต่อเนื้อเยื่อตับ สมอง และไตค่ะ ใครอยากอ่านงานวิจัยฉบับเต็ม ไปอ่านได้ตามลิงค์นี้นะคะ งานวิจัย เรื่อง Histopathological effects of mercury in skin-lightening cream. โดย Al-Saleh I และคณะ
หลายคนคงคุ้นๆกับชื่อโรคนี้นะคะ โรคมินามาตะ (เคยท่องตอนเรียนสมัยเด็กๆ) โรคนี้ตั้งตามชื่อเมืองมินามาตะ ในญี่ปุ่น เป็นเมืองที่เคยเกิดปัญหาการปนเปื้อนของสารปรอทจากโรงงานอุตสาหกรรมสู่สิ่งแวดล้อม โรคนี้ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชาตามแขนขา อัมพาต แขนขาบิดเบี้ยว ไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ มีผลต่อสมอง และระบบประสาท เมื่อนำสมองของผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคนี้มาศึกษาจะพบว่าเนื้อสมองถูกทำลาย เนื้อสมองหายไป และมีลักษณะพรุนคล้ายฟองน้ำค่ะ ซึ่งอาการทั้งหมดนี้เกิดจากพิษของปรอทที่สะสมในร่างกาย
ดังนั้นหากสาวๆจะเลือกใช้เครื่องสำอางใดๆ อย่าดูเพียงผลลัพธ์ระยะสั้นเพียงอย่างเดียวนะคะ ต้องดูความปลอดภัยระยะยาวกันด้วยแม้จะขาวกระจ่างใสรวดเร็ว แต่หากมีอันตรายมากมายอย่างที่กล่าวไปข้างต้น ก็ไม่ควรใช้ค่ะ ในการผลิตเครื่องสำอางยังมีสารอีกมากมายค่ะ ที่มีประสิทธิภาพดีที่ช่วยในเรื่องความขาวกระจ่างใสได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสารอันตราย
อ้างอิง
- บทความเรื่อง Mercury Poisoning Linked to Skin Products โดย U.S. FDA
- บทความเรื่อง อันตรายจากสารต้องห้ามในเครื่องสำอาง โดย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลฝ่ายเภสัชกรรม
Share this: