Comedogenic Rate กับการเกิดสิวอุดตัน และการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง Comedogenic Rate ของสารต่างๆ กับการเกิดการอุดตัน และการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าค่ะ

สิ่งหนึ่งที่สาวๆมักตั้งคำถามเสมอก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า คือ ใช้ตัวนี้แล้วจะอุดตันมั๊ยคะ?

Comedogenic Rate คืออะไร แล้วทำไปทำไมนะ?

ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า แนวคิดเรื่อง Comedogenic ไม่ใช่แนวคิดใหม่ที่เพิ่งมีมาไม่นานนี้ค่ะ แนวคิดนี้มีมาตั้งแต่ปี 1972 โดยตอนนั้น คุณ Kligman และ Mills ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้นำเสนอเรื่อง “Acne Cosmetica” ขึ้นมา

“Acne Cosmetica” คือ เครื่องสำอางที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิว หรือทำให้สิวที่เป็นอยู่แล้ว เป็นเยอะขึ้นไปอีก

โดยรายงานว่า เครื่องสำอางในท้องตลาดที่ขายๆกันกว่า 50% พบว่าสามารถทำให้เกิดการอุดตันที่หูกระต่าย

(ถ้าใครอ่าน เรื่องที่ Jaslyn เคยเขียนก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับเวชสำอาง อาจจะคุ้นๆชื่อ คุณ Kligman เพราะคนนี้แหละค่ะ เป็นคนที่ทำให้คำว่าเวชสำอาง หรือ Pharmaceutical เป็นที่แพร่หลาย แต่ไม่ใช่คนคิดคนแรกนะคะ)

เหตุผลที่ต้องทดสอบที่หูกระต่าย เค้าให้เหตุผลว่า ที่หูกระต่ายเพราะบริเวณหูกระต่ายจะมีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก และมีความไวต่อการเกิดการอุดตันมากกว่าผิวคน เค้าเลยเชื่อว่าถ้ากระต่ายใช้แล้วไม่อุดตัน คนก็น่าจะปลอดภัยค่ะ

Comedogenic Rate ก็คือ การจัดอันดับของสารต่างๆ ที่นำมาทดสอบโดยการทาในรูหูกระต่ายส่วนนอก (External canel) วันละ 1 ครั้ง , ทาให้ได้ 5 ครั้ง ใน 1 สัปดาห์ ปริมาณที่ทา 5-10 mg/cm2 ตามดูผลนาน 14 ครั้ง หลังจากทา แล้วดูว่าทำให้เกิด follicular hyperkeratosis การหนาตัวของชั้นหนังกำพร้ารอบๆต่อมขน หรือ การอักเสบต่างๆหรือไม่ แล้วนำมาจัดลำดับคะแนน แบ่งเป็น 0 – 5

คะแนน Comedogenic rate

0 = จะไม่อุดตันรูขุมขน

1 = อุดตันน้อย

2 = อุดตันค่อนข้างน้อย

3 = ปานกลาง

4 = ค่อนข้างสูง

5 = สูง

Comedogenic Rate ของสารต่างๆ ข้อมูลตรงนี้แต่ละแหล่งอ้างอิง อาจจะแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อยนะคะ เพราะมีคนทดสอบในเรื่องนี้หลายงานวิจัยอยู่ค่ะ และค่าที่ได้ก็มีคลาดเคลื่อนกันบ้างในบางตัว

น้ำมันและเนย (Oils & Butters)

น้ำมันอัลมอนด์ Almond Oil – 2
น้ำมันเมล็ดแอปริคอท Apricot Kernel Oil – 2
น้ำมันอาร์แกน Argan Oil – 0
น้ำมันอะโวคาโด Avocado Oil – 2
น้ำมันเบาบับ Baobab Oil – 2
น้ำมันโบราจ Borage Oil – 2
น้ำมันดอกดาวเรือง Calendula Oil – 1
การบูร Camphor – 2
น้ำมันละหุ่ง Castor Oil – 1
เนยโกโก้ Cocoa Butter – 4
เนยมะพร้าว Coconut Butter – 4
น้ำมันมะพร้าว Coconut Oil (from the meat or kernel) – 4
น้ำมันข้าวโพด Corn Oil – 3
น้ำมันเมล็ดฝ้าย Cotton Seed Oil – 3
น้ำมันนกอีมู Emu Oil – 1
น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส Evening Primrose Oil – 2
น้ำมันเมล็ดลินิน Flax Seed Oil – 4
น้ำมันเมล็ดองุ่น Grape Seed Oil – 2
น้ำมันฮาเซลนัท Hazelnut Oil – 2
น้ำทันเมล็ดกัญชง Hemp Seed Oil – 0
น้ำมันโจโจ้บา Jojoba Oil – 2
น้ำมันโจโจบาซัลเฟต Jojoba Oil Sulfated – 3
น้ำมันลินสีด Linseed Oil – 4
เนยมะม่วง Mango Butter – 0
น้ำมันแร่ Mineral Oil – 0 **** อ่านหมายเหตุ
น้ำมันตัวมิงค Mink Oil – 3
น้ำมันสะเดา Neem Oil – 1
น้ำมันมะกอก Olive Oil – 2
น้ำมันปาล์ม Palm Oil – 4
น้ำมันเมล็ดพีช Peach Kernel Oil – 2
น้ำมันถั่วลิสง Peanut Oil – 2
วาสลีน Petrolatum – 0 **** อ่านหมายเหตุ
น้ำมันทับทิม Pomegranate Oil – 1
น้ำมันเมล็ดฟักทอง Pumpkin Seed Oil – 2
น้ำมันโรสฮิป Rosehip Oil – 1
น้ำมันดอกคำฝอย Safflower Oil (not the cooking oil) – 0
น้ำมันเมล็ดไม้จันทน์ Sandalwood Seed Oil – 2
น้ำมันซีบัคธอร์น Sea Buckthorn Oil – 1
น้ำมันงา Sesame Oil – 2
เนยเชีย Shea Butter – 0
น้ำมันถั่วเหลือง Soybean Oil – 3
น้ำมันดอกทานตะวัน Sunflower Oil – 2
น้ำมันต้นกระทิง Tamanu Oil – 2
น้ำมันจมูกข้าวสาลี Wheat Germ Oil – 5
น้ำมันตับปลาฉลาม Shark Liver Oil – 3

หมายเหตุ  ****Mineral Oil กับ Petrolatum มีทั้งการศึกษาที่บอกว่าไม่กระตุ้นสิวและการศึกษาที่แย้งว่ากระตุ้นสิว

ไข Waxes

ขี้ผึ้ง Beeswax – 2
ไขแคนเดลิลล่า Candelilla Wax – 1
ไขคาร์นอบา Carnauba  Wax – 1
ไขเคเรซิน Ceresin Wax – 0
ไขอิมัลซิไฟเออร์เนชันเนลฟอร์มูล่า Emulsifying Wax NF – 2
ไขขนแกะ Lanolin Wax – 1

พืช Botanicals

สารสกัดสาหร่าย Algae Extract – 5
เจลว่านหางจระเข้ Aloe Vera Gel – 0
ดาวเรือง Calendula – 1
คาร์ราจีแนน Carrageenans – 5
ดอกคาโมไมล์ Chamomile – 2
สารสกัดจากดอกคาโมไมล์ Chamomile Extract – 0
ว่านหางจระเข้สกัดเย็น Cold Pressed Aloe – 0
สาหร่ายสีแดง Red Algae – 5

Vitamins & Herbs

วิตามินซี Ascorbic Acid – 0
สารสกัดมันฮ่อดำ Black Walnut Extract – 0
วิตามินอี Tocopherol (Vitamin E) – 2
วิตามินเอ Vitamin A Palmitate – 2
โปรวิตามินบี 5 Panthenol – 0

Antioxidants

เบต้าแคโรทีน Beta Carotene – 1
กรดไฮดรอกซีเบต้า BHA – 2

Minerals

แอลจิน Algin – 4
กำมะถันคอลลอยด์ Colloidal Sulfur – 3
ดอกกำมะถัน Flowers of Sulfur – 0
เกลือโพแทสเซียมคลอไรด์ Potassium Chloride – 5
ขี้ผึ้งผสมผงกำมะถันเหลือง Precipitated Sulfur – 0
เกลือแกง Sodium Chloride (Salt) – 5
แร่หินสบู่ Talc – 1
ซิงค์สเตียเรต Zinc Stearate – 0

Thickeners, Emulsifiers, Detergents

คาร์โบเมอร์ 940 Carbomer 940 – 1
ไฮดรอกซีโพรพิลเซลลูโลส Hydroxypropyl Cellulose – 1
ดินขาว Kaolin – 0
แมกนีเซียมอลูมิเนียมซิลิเกต Magnesium Aluminum Silicate – 0
โซเดียม ลอเรท ซัลเฟต Sodium Laureth Sulfate – 3
โซเดียม ลอริล ซัลเฟต Sodium Lauryl Sulfate – 5
ซอร์บิแทน โอลีเอท Sorbitan Oleate – 3

Alcohol, Esters, Ethers, & Sugars

โพลิซอเบท 20 Polysorbate 20 – 0
โพลิซอเบท 80 Polysorbate 80 – 0
สเตอรอลเอสเทอร์ Sterol Esters – 0
บีเฮนดิล ไตรกลีเซอร์ไรด์ Behenyl Triglyceride – 0
บิวทีลีน ไกลคอล Butylene Glycol – 1
ซิเทียริว แอลกอฮอล์ Cetearyl Alcohol – 2
ไดเอทิลีนไกลคอลโมโนเมทิลอีเทอร์ Diethylene Glycol Monomethyl Ether – 0
กลีเซอรีน Glycerin – 0
กลีเซอริลสเตียร์เรทเอ็นเอสอี Glyceryl Stearate NSE – 1
กลีเซอริลสเตียร์เรทเอสอี Glyceryl Stearate SE – 3
กลีเซอริลไตรแคปพิลโลคาเพลท Glyceryl Tricapylo/Caprate – 1
กลีเซอรอลทรีไดไอโซสเตียร์เรท Glyceryl-3-Diisostearate – 4
เฮกซะเดซิลแอลกอฮอล์ Hexadecyl Alcohol – 5
ไอโซเซทิลสเตียร์เรท Isocetyl Stearate – 5
ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ Isopropyl Alcohol – 0
ลอร์เรท 23 Laureth 23 – 3
ลอร์เรท 4 Laureth 4 – 5
ออคทิล สเตียร์เรท Octyl Stearate – 5
โอเลท-10 Oleth-10 – 2
โอเลท-3 Oleth-3 – 5
โอเลอิลแอลกอฮอล์ Oleyl Alcohol – 4
โพลีเอทิลีนไกลคอล 400 Polyethylene Glycol 400 (PEG 400) – 1
โพลีเอทิลีนไกลคอล 300 Polyethylene Glycol 300 – 1
โพลีกรีเซอริลทรีไดไอโซสเตียร์เรท Polyglyceryl-3-Diisostearate – 4
โพรพิลีนไกลคอล Propylene Glycol – 0
โพรพิลีนไกลคอลโมโนสเตียร์เรท Propylene Glycol Monostearate – 4
แอลกอฮอล์ดีแนท SD Alcohol 40 – 0
ซอร์บิแทน ลอเรท Sorbitan Laurate – 1
ซอร์บิทอล Sorbitol – 0
สเตียเรท 10 Steareth 10 – 4
สเตียเรท 100 Steareth 100 – 0
สเตียเรท 2 Steareth 2 – 2
สเตียเรท 20 Steareth 20 – 2
จมูกข้าวกรีเซอไรด์ Wheat Germ Glyceride – 3

พอมีการจัดลำดับ Comedogenic rate ขึ้นมา ก็ส่งผลดีในแง่ของการตลาดเครื่องสำอาง เพราะ คนที่กำลังเป็นสิว กังวลเรื่องสิว ก็จะรู้สึกมั่นใจมากขึ้น หากผลิตภัณฑ์มีเขียนไว้ว่า Non-comedogenic

จริงๆ ในประเด็นนี้มีการถกเถียงกันค่อนข้างมากค่ะ เรื่อง Comedogenic

ประเด็นที่ 1 สารในกลุ่ม Mineral oil และ Petrolatum มีทั้งงานวิจัยที่บอกว่า ทำให้เกิดการอุดตัน และไม่อุดตัน

โดยสรุปแล้ว ในประเด็นนี้เค้าบอกว่า งานวิจัยแรกที่บอกว่า Mineral oil และ Petrolatum ทำให้เกิดการอุดตัน น่าจะเกิด false positive คือ ผลบวกลวงค่ะ หมายความจริงๆแล้ว ไม่ทำให้อุดตัน และในปัจจุบัน Mineral oil และ Petrolatum ที่ใช้ในเครื่องสำอางมีความบริสุทธิ์มากขึ้นจากสารบางตัวที่ปนมาแล้วทำให้อุดตัน นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Petrolatum แล้วพบว่าไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และไม่กระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ แม้ลักษณะภายนอกของสารตัวนี้จะดูมันๆก็ตาม ตัวอย่าง Petrolatum เช่น Vasaline ที่เนื้อเหลืองๆ ครีมๆ ค่ะ

มีบางเว็บไซต์ที่อ่านเจอบอกว่า Mineral oil และ Petrolatum มี Comedogenic rate = 0 แต่ ใช้แล้วอุดตัน อันนี้ คือ มั่ว นะคะ เข้าใจผิดแล้ว

ค่า Comedogenic rate บอกเกี่ยวกับการอุดตันค่ะ ถ้าเท่ากับ 0 แสดงว่าไม่เกิดการอุดตัน และไม่กระตุ้นการเกิดสิว

ประเด็นที่ 2 เรื่องวิธีการทดสอบในการจัด Comedogenic rate ของแต่ละการทดลอง

โดยสรุปในประเด็นนี้ บางการทดลอง(การทดลองแรกๆ สมัยเริ่มแรกเลย) ไม่ได้กำจัดสิ่งอื่นๆที่อยู่ในรูหูกระต่ายออกก่อนทำการทดสอบ เช่น พวกคราบไขมัน ขี้หู ซึ่งพวกนี้ก็อาจจะทำให้อุดตันได้เช่นกัน ผลที่ได้จึงอาจจะเป็น False Positive (ผลบวกลวง), บางการทดลองไม่ได้ทำ biopsy เปรียบเทียบชิ้นส่วนเซลล์ของด้านที่ทำการทดลอง กับด้านที่ไม่ได้ทำ ผลที่ได้ก็จึงอาจจะเป็น False Positive ได้เช่นกัน ใน Model การทดสอบกับหูกระต่ายในปัจจุบันจะไม่ทำที่รูหูแล้ว แต่จะมาทำที่ใบหูแทน เนื่องจากไม่สะดวกในการเอามาทำ biopsy และModel กระต่ายปัจจุบัน จะทำบริเวณใบหูส่วน concave แทน ที่เลือกเพราะมีปริมาณรูขุมขนมากพอให้ศึกษา และมีความคล้ายคลึงกับ follicle กับของคนมากกว่า

แต่ก็ยังมีคนแย้งอีกว่า หูกระต่ายมันจะไวต่อการเกินการอุดตันมากไปนะ งั้นไปทดสอบในคนดีกว่า ในที่สุดจึงมีการไปศึกษาในคน (Human-model) ค่ะ โดยศึกษาการอุดตันบริเวณหลังส่วนบนของวัยรุ่นผิวดำ ซึ่งมีขนาดรูขุมขนใหญ่ การทดลองนี้มีทั้งการนำน้ำมันส่วนเกินต่างๆออกก่อนการทดลองแล้ว ทำ biopsy ด้วย สิ่งที่น่าสนใจ คือ พบว่า สารที่อุดตันน้อยในหูกระต่าย ไม่ทำให้เกิดการอุดตันในคน และน่าจะใช้ได้ในคนที่เป็นสิว แต่สารที่มีการอุดตันระดับปานกลางถึงสูงในหูกระต่ายสามารถกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตันในคนได้ค่ะ

การเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า สกินแคร์ต่างๆ การดูค่า Comedogenic rate เพียงอย่างเดียวเพียงพอหรือไม่ ?

จริงๆ แล้วการดูค่า Comedogenic rate เพียงอย่างเดียว ไม่พอค่ะ

การเลือกสารในการตั้งตำรับเครื่องสำอาง หรือจะซื้อมาใช้ ยังต้องคิดเรื่องการระคายเคือง ปริมาณที่ใส่ด้วยค่ะ ต้องอยู่ในช่วงที่กำหนด ถึงสารที่เลือกมีค่า Comedogenic rate ต่ำ แต่หากมีความเข้มข้นมากเกินไป ก็สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้

คุณสมบัติทางเคมีและกายภาพ คุณสมบัติเฉพาะ ฤทธิ์เฉพาะของสารนั้น หากเราเลือกใช้สารเพื่อบำรุงผิวสักตัว ควรพิจารณาเลือกคุณสมบัติต่างๆ ของสารที่เราจะใช้ ให้ตรงกับปัญหาผิวด้วยค่ะ

คำแนะนำสำหรับคนเป็นสิว ในการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า

ผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า Non-comedogenic ก็ไม่สามารถรับประกันได้ 100% ค่ะ ว่าจะไม่อุดตัน เช่นกัน เพราะยังขึ้นกับปัจจัยอื่นอีก เช่น ปริมาณ การตั้งตำรับ สภาพขนาดรูขุมขน

หากจะบอกว่าให้หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันไปเลยสำหรับคนเป็นสิว ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะ

สารที่เป็นน้ำมัน หรือมีลักษณะมันๆ ก็ไม่ได้ หมายความว่า จะทำให้เกิดการอุดตันทุกตัวค่ะ เช่น Mineral oil, Shear butter, Argan oil จะเห็นว่าค่า Comedogenic rate = 0

แนะนำว่า หากมีปัญหาสิวอยู่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ สารที่ใช้ในการทำครีมเบส, สารที่มีสัดส่วนสูงในเนื้อผลิตภัณฑ์ มีค่า Comedogenic rate ช่วง 0-2 ค่ะ หากสารมีค่า Comedogenic rate ช่วง 3-5 ต้องระวังว่าอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ แต่สำหรับคนที่ผิวปกติ ไม่มีปัญหาสิว จะใช้แบบไหนก็ได้ค่ะ หากใช้แล้วไม่มีปัญหา อย่างที่เคยเขียนในบทความก่อนหน้านี้ เรื่องการใช้น้ำมันมะพร้าว เช็ดเครื่องสำอาง น้ำมันมะพร้าว comedogenic rate = 5 แต่บางคนใช้แล้วไม่มีปัญหา ก็ใช้ได้ค่ะ

แต่หากสารนั้นใส่ในปริมาณน้อย เช่น ใส่เป็นสารสำคัญ (Active ingredient) ก็ไม่ต้องกังวลมากกับเรื่อง Comedogenic rate ค่ะ เพราะสารสำคัญ ปริมาณที่ใส่โดยปกติ อยู่ที่ 1-5% คิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับครีมเบส จึงไม่น่าก่อให้เกิดการอุดตันได้

อ้างอิง

  1. บทความเรื่อง A Human Model for Assessing Comedogenic Substances โดย Otto H. Mills Jr, PhD; Albert M. Kligman, MD, PhD Arch Dermatol. 1982;118(11):903-905. doi:10.1001/archderm.1982.01650230031022
  2. งานวิจัยเรื่อง Use of the rabbit ear model in evaluating the comedogenic potential of cosmetic ingredients โดย WILLIAM E. MORRIS และ SHIH CHAO KWAN j. Soc. Cosmet. Chem., 34, 215-225 (August 1983) 
  3. หนังสือ Conditioning Agents for Hair and Skin โดย Randy Schueller และ Perry Romanowski

This slideshow requires JavaScript.

เพิ่มเพื่อน
Share this: