สารกันบูดในอาหาร กับความจริงที่โหดร้าย

สารกันบูดในอาหาร กับความจริงที่โหดร้าย

พอดีได้อ่านโพสต์ของอาจารย์เมย์แล้วอดที่จะเขียนถึงเรื่องนี้ไม่ได้ ลองอ่านโพสต์ต้นเรื่องได้ที่นี่นะครับ >>>>> https://www.facebook.com/may.srivilai/posts/10153327581322373

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาแล้วในวงการอาหารบ้านเรา เวลา สสจ. ออกตรวจทีไร ก็จะพบปัญหานี้ตลอด เมื่อเป็นข่าวดัง ก็จะมีกระแสมาสักที แต่พอเรื่องเงียบ มันก็กลับมาอีก

เรื่องนี้เป็นเคสตัวอย่างของ อ.เมย์ ที่เล่าให้ฟังว่า ครั้งนึงเคยมีผู้ประกอบการท่านนึง ทำขนมถ้วยส่งออกต่างประเทศ ทีนี้ถ้าใครเคยทำอาหารส่งออกจะรู้ครับว่าประเทศปลายทางจะมีการสุ่มตรวจเพื่อหาว่ามีสารอันตรายเจือปนไหม ซึ่งผู้ประกอบการรายนั้นก็ระวังตัวอย่างดี ไม่มีการใส่สารกันบูดลงไปเลย (แต่ใช้วิธีอื่นการถนอมอาหารแบบอื่นแทน) แล้วปรากฏว่าผู้ประกอบการรายนั้นโดนสุ่มตรวจ และพบสาร benzoic acid ซึ่งเป็นสารกันบูดชนิดหนึ่งในระดับเกิน 1000 ppm

ผู้ประกอบการท่านนั้นสงสัยว่า benzoic acid มาจากไหน จึงส่งวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตขนมไปตรวจ ปรากฏว่าพบสาร benzoic acid ในพบในเเป้ง น้ำตาลปี๊บ เเละกะทิ จึงต้องไปถามผู้ผลิตวัตถุดิบทั้ง 3 อย่างให้รู้เรื่อง เพราะถ้าผู้ผลิตวัตถุดิบไม่หยุดใส่ benzoic acid แบบนี้ ต่อให้ไม่ใส่สารกันบูดเลย ก็ส่งออกไม่ได้อยู่ดี ซึ่งผลก็คือ (ขอก็อปข้อความมาเลยนะครับ)

ถามโรงเเป้ง: คุณจะใส่ลงไปในเเป้งทำไม มันกันมอดไม่ได้หรอกนะ
ตอบ: “ป๊าววว! ผมใส่เพราะว่าคนทำขนมบ่นกันว่าขนมบูดง่าย อากาศเมืองไทยมันร้อน ถ้าไม่ใส่ให้เค้า ขนมเค้าก็บูดเปรี้ยวหมด”

ถามโรงน้ำตาล: คุณใส่สารกันบูดหรือเปล่า
ตอบ: “ป๊าววว! ไม่ได้ใส่ คุณไม่รู้อะไร ภูมิปัญญาชาวบ้านเค้าใส่ไม้พยอมกัน” อืมๆ มันคงมี phenolic หน้าตาคล้าย benzoic มั้ง เเล้วใส่ยังไงคะ หาไม้พยอมมาจากไหน “โอย เดี๋ยวนี้ไม้มันหายากหน่อย ใช้นานๆ มันก็มีจืดบ้าง” เออ จืดเเล้วยังใช้ได้ผล? “ก็เอาไปคลุกๆ สารกันบูดก่อน เเล้วค่อยไปลอย ใช้ได้ดีเหมือนกัน” ??????

ถามโรงกะทิ: คุณใส่ตอนไหน
ตอบ: “ก็คั้นเสร็จก็ใส่เลย กะทิมันบูดง่าย ไม่ใส่ไม่ได้หรอก โลนึงก็ใส่ช้อน(กลาง)นึง ถ้าไม่ใส่ก็จะโดนด่าว่าของเน่าของไม่ดี” มันจะบูดง่ายอะไรนักหนา คั้นเสร็จมันต้องต้มต้องนึ่งน่าจะฆ่าได้เยอะอยู่นะ เลยส่งตรวจ TPC ครั้งเเรก ได้ 10^6 CFU/g โทรไปด่าเจ้าหน้าที่เลย ปล่อยตัวอย่างไว้นานหรือไง ทำไมมันเยอะเเบบนี้ ส่งใหม่ ย้ำว่าคั้นเสร็จเเช่เย็นส่งตรวจภายใน 1 ชม. ได้ 10^7 CFU/g คือว่า ท่อน้ำทิ้ง รง. ยังสะอาดกว่ากะทิสด

หมายเหตุ: CFU คือ colony forming unit เพราะฉะนั้น 10^7 CFU/g หมายถึงในกระทิ 1 กรัม เจอเชื้อ 10^7 ตัว หรือ 10,000,000 ตัวนั่นเอง ถามว่าเยอะไหม เยอะครับ เยอะมากด้วย แต่ถามว่ากินแล้วเป็นอะไรไหม ตอบยาก เพราะคนไทยส่วนใหญ่ เจอแบบนี้จนชิน เรียกได้ว่าทนจนดื้อด้านกับเชื้อไปแล้ว หากเชื้อไม่รุนแรงจริงๆคงทำอะไรคนไทยไม่ได้ ถ้ายังจำกันได้ เมื่อ 5 ปีที่แล้วมีเชื้อ E.Coli สายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้เม็ดเลือดแดงตายแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนไตวายจนเสียชีวิตได้ มีคนตายในยุโรปเยอะแยะมากมาย เราก็เฝ้าระวังกันเต็มที่ครับ แล้วเชื้อตัวนี้มันก็เข้ามาไทยแล้วจริงๆ เข้ามานานแล้วด้วย แต่ไม่มีคนไทยเป็นอะไรเลย เพราะคนไทยดื้อต่อเชื้อหมดแล้ว อารมณ์ประมาณว่าเชื้อแค่นี้ชิวๆ หนักกว่านี้คนไทยก็เจอมาหมดแล้ว (ฮา)

อันตรายมากไหม ?

ถามว่า benzoic acid มันอันตรายไหม มันก็ไม่ค่อยอันตรายหรอกครับ เป็นสารที่ปลอดภัยใช้ได้ในระดับนึง ไม่อย่างนั้นเค้าคงไม่อนุญาตให้ใส่ในอาหารได้ แต่คำว่าปลอดภัยนั่นหมายถึงคุณสามารถใส่ได้ในปริมาณที่ไม่เกินกำหนด ถามว่าใส่เกินแล้วตายไหม มันก็ไม่ตายหรอกครับ อย่างที่เรากินอยู่ทุกวันนี้ก็เกินกันทั้งนั้น ปริมาณที่ทำให้ตายเลย คือ 500 mg ต่อน้ำหนักตัว 1 kg อย่างหนัก 50 kg ก็ต้องกินถึง 25000 mg หรือ 25 กรัมถึงจะตายทันที ซึ่งในความเป็นจริงคงไม่มีบ้าใส่ขนาดนั้น แต่ระดับที่ใช้ได้ปลอดภัยมันก็ต่ำคือไม่เกิน 5 mg/kg ต่อวัน หมายความว่าถ้าหนัก 50 kg วันนึงกิน benzoic acid ได้ไม่เกิน 250 mg เท่านั้น หากมากกว่านี้ แม้ว่าไม่ตายทันทีก็จริง แต่เราก็จะค่อยๆตายผ่อนส่งไปเรื่อยๆ และอาจเกิดโรคเรื้อรังในอนาคตได้

เอาจริงๆ 250 mg ต่อวัน มันก็ไม่ได้น้อยมากนะครับ แต่ลองคิดดูว่าถ้าผู้ผลิตวัตถุดิบแต่ละอย่างพร้อมใจกันใส่แบบนี้ พอทำเป็นอาหารจริงๆก็มาใส่อีกรอบ แล้ววันนึงเรากินอาหาร 3 มื้อ แถมขนมอีก แบบนี้ เรียกได้ว่ากินกันทะลุ 250 mg ไปไกลได้ง่ายๆเลย

เรื่องสารกันบูด เดี๋ยวว่างๆผมจะหาพวกผลจากการตรวจสุ่มตรวจสินค้าในท้องตลาดมาให้อ่านกันเล่นๆ รายงานพวกนี้มีเยอะแยะครับ ทำเสร็จเป็นข่าวสักที สองที ก็เก็บขึ้นหิ้งกันหมด เห็นแล้วจะตกใจครับ 1000 ppm นี่เด็กๆไปเลย โดยเฉพาะกับพวกเส้นก๊วยเตี๋ยวทั้งหลาย (แต่ก็ไม่ได้เกินกันทุกยี่ห้อนะครับ) แต่อีกใจก็กลัวว่าเอาข้อมูลพวกนี้มาลงในเว็บนี้จะไม่เหมาะ เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็นโจมตีสินค้ายี่ห้ออื่นไปซะอีก ที่ผมคิดๆไว้คืออาจจะเปิดเพจอีกเพจนึงมาให้ความรู้ด้านนี้โดยเฉพาะเลย แต่อีกใจก็กลัวว่าปั้น 2 เพจ จะเป็นงานหนักเกินไป

ยังไง สุดท้ายนี้ ก็ขอเชิญทุกคนมาติดตามผมและทีมงานกันได้ที่เพจนี้นะครับ >>>>> https://www.facebook.com/Jaslynsense ขอบคุณมากครับ

อ่อ ใครที่อ่านเว็บไซต์ jaslyn นี้แล้ว เห็นพูดครับบ้าง ค่ะบ้าง ไม่ต้องแปลกใจนะครับ ผมเป็น Admin อีกท่านนึงและเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Jaslyn เพียงแต่ส่วนใหญ่แล้วผมจะทำงานเบื้องหลังซะมากกว่า ไม่ค่อยโพสต์ออกเพจหรือเว็บสักเท่าไรครับ

กะทิ, สารกันบูด, benzoic acid

รูปประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใดนะครับ

 

 

เพิ่มเพื่อน
Share this: