สลัดผัก ปลอดภัยแค่ไหน
หลายคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดหุ่น ควบคุมน้ำหนัก 1 ในเมนูโปรดยอดนิยม ที่จะต้องมีอย่างแน่นอน ในรายการอาหาร คือ สลัดผัก
แต่ เพื่อนๆทราบมั๊ยคะว่า เจ้าสลัดผัก ก็อาจจะทำให้เราป่วยได้เช่นกัน จากเชื้อแบคทีเรีย เช่น เชื้อ ซัลโมเนลลา (Salmonella anatum), E.Coli ที่ทำให้เกิดท้องร่วง
ในช่วงที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อย. บ้านเราได้ออกมาตรการเฝ้าระวัง “ผักสลัด” ที่นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย
เนื่องจากได้รับการแจ้งเตือนจากเครือข่ายอาหารปลอดภัยระหว่างประเทศ (INFOSAN Secretariat) ว่า ผักสลัดบรรจุถุงพลาสติก ของ บริษัทหนึ่งที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ มีการปนเปื้อนเชื้อซาโมเนลลา จำนวน 25 รายการ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเชื้อตัวนี้เป็นเชื้อก่อโรค สามารถทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ ท้องร่วงได้ โดยที่ออสเตรเลียได้ดำเนินการเรียกคืนสินค้าดังกล่าวแล้ว
เจ้าผักสลัดที่ว่านอกจากขายที่ออสเตรเลียแล้ว ยังมีการขายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก รวมถึง ประเทศไทย ด้วย โดยได้นำผักสลัดยี่ห้อดังกล่าวเข้ามา จำนวน 2 ครั้ง รวม 9 กิโลกรัม และได้จำหน่ายไปแก่ลูกค้าหมดแล้ว
ถึงอย่างไรก็ตาม อย. บ้านเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้นะคะ หลังจากทราบแล้วก็ได้ออกมาตรการทั้ง สั่งให้ด่านอาหารและยาทั่วประเทศ เฝ้าระวังผักสลัดดังกล่าวที่พบปัญหา ไม่ให้มีการนำเข้าโดยเด็ดขาด!!! , มีการสั่งเรียกคืนสินค้า ดังกล่าว (อันนี้คิดว่า ไม่มีใครเอามาคืนนะคะ น่าจะกินกันไปหมดเรียบร้อยแล้ว), สุ่มตรวจอาหารเพื่อหาสิ่งปนเปื้อนอย่างต่อเนื่อง
ในแง่ของเราๆ ที่เป็นผู้บริโภค ก็ต้องระมัดระวัง ดูแลตัวเองเช่นกันนะคะ
มีบางงานวิจัยบอกว่า น้ำที่อยู่ก้นถุงผักสลัดนั้นทำให้การเจริญเติบโตของซาโมเนลลา เพิ่มขึ้นถึง 110% เลยทีเดียว (พวกมันสามารถลอยอยู่ในน้ำนั้นได้สบายๆ เหมือนพักผ่อนตากอากาศเชียวหละ) และการล้างผักด้วยน้ำ หรือแม้กระทั่งด้วยสารเคมีก็ไม่ค่อยมีผลมากนักในการกำจัดเชื้อซาโมเนลลา และ E.coli เพราะ เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้สัมผัสกับพื้นผิวผัก มันจะสร้าง ไบโอฟิล์ม (Biofilm) ขึ้น ซึ่งจะช่วยเป็นเกราะปกป้องมันจากสารเคมีที่เราใช้ทำความสะอาด และเพิ่มความเหนียวแน่นในการยึดเกาะกับพื้นผิว นอกจากนี้มันยังสามารถแทรกตัวเข้าไปในเนื้อเยื่อภายในของผักได้อีกด้วย จึงเป็นเหตุผลให้การทำความสะอาด และกำจัดมันเป็นไปได้ยาก วิธีที่จะกำจัดมันอย่างเด็ดขาด คือ การปรุงให้สุกด้วยความร้อน หรือฉายแสงเท่านั้น
มาถึงตอนนี้ หลายๆคนคงเริ่มตั้งคำถามแล้วว่า
“การกินสลัดผัก อันตรายขนาดที่เราควรหลีกเลี่ยง การกินไปเลยหรือเปล่า”
ไม่ต้องถึงขั้นโบกมืออำลำ เลิกกินสลัดผักกันหรอกค่ะ เพราะ หากเรามองในแง่ของความเสี่ยงแล้ว โอกาสที่คนปกติ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง หากได้รับเชื้อก่อโรคเหล่านี้จากผักสลัดแล้วเกิดอันตรายรุนแรงนั้นค่อนข้างน้อย กลุ่มบุคคลที่ควรจะระมัดระวังในการรับประทานอาหารกลุ่มนี้ คือ ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เช่น เด็ก, ผู้สูงอายุ, หญิงตั้งครรภ์, ผู้มีปัญหาระบบภูมิคุ้มกัน เพราะหากป่วยจะใช้เวลาฟื้นตัวนาน แต่หากต้องการให้ความเสี่ยงเป็นศูนย์เลย ก็คงต้องยอมรับค่ะ ว่าต้องกินแบบปรุงสุกเท่านั้น ซึ่งก็รวมถึงอาหารอื่นๆที่มักพบเชื้อแบคทีเรียก่อโรคนี้ เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม ต้องหลีกเลี่ยงนมที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการพลาสเจอร์ไรซ์, ไข่ เนื้อสัตว์ เนื้อปลา ก็ควรรับประทานแบบปรุงสุกเช่นกันค่ะ
ต้องล้างผักก่อนกินอยู่หรือเปล่า?
ถึงแม้ว่าการล้างผักจะไม่สามารถกำจัดเจ้าเชื้อซาโมเนลลา และ E.coli ได้ เราก็ยังคงต้องล้างผัก และผลไม้ค่ะ เพื่อลดการปนเปื้อนของเชื้อโรคบางชนิด สิ่งสกปรก และสารตกค้างจากยาฆ่าแมลง ถึงผักนั้นจะดูด้วยตาเปล่าแล้วสะอาด น่ากิน มีการทำความสะอาดมาแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสะอาดจริงๆ คงไม่ดีแน่ หากจะกินสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกับสลัดผักด้วย ดังนั้น ก่อนจะรับประทานผักและผลไม้ ควรล้างให้สะอาดทุกครั้ง โดยใช้มือคลี่ใบผักออก, ลูบที่เปลือกของผลไม้ต่างๆ เปิดน้ำจากก๊อกแรงพอประมาณให้น้ำไหลผ่านสัก 2 นาที หรือจะลอกใบชั้นนอกของผักออกบางส่วน แล้วเด็ดเป็นใบๆ เช่น กะหล่ำปลี จากนั้นแช่น้ำสะอาด หรือ น้ำส้มสายชู (5%) 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำประมาณ 1 กะละมัง แล้วแช่ผักทิ้งไว้สัก 10 นาที หรือจะใช้น้ำยาล้างผักโดยเฉพาะก็ได้ค่ะ แล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งตกค้าง
อ้างอิง
- งานวิจัยเรื่อง Salad leaf juices enhance Salmonella growth, fresh produce colonisation and virulence
- บทความ How to kill E.coli on vegetables โดย Monica Reinagel
- บทความเรื่อง อย.เฝ้าระวัง ผักสลัดนำเข้าจากออสเตรเลีย แนะล้างผักให้สะอาดก่อนบริโภคทุกครั้ง จาก วารสารฟาร์มาไทม์ ฉบับที่ 117

Share this: