โรคยุคใหม่ของชาวไอที … เล่นมือถือในที่มืดทำให้ตาบอด จริงหรือ? … Computer Vision Syndrome คือ อะไร?

โรคยุคใหม่ของชาวไอที … เล่นมือถือในที่มืดทำให้ตาบอด จริงหรือ? … Computer Vision Syndrome คือ อะไร?

ช่วงที่ผ่านมามีการแชร์ต่อๆกันในโลกโซเชียล ว่า เล่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์ มือถือต่างๆ ในที่มืด อาจจะทำให้ตาบอดได้!!!

จริงๆ แล้วในประเด็นนี้ ยังไม่มีหลักฐาน และงานวิจัยทางการแพทย์ที่พบว่าการเล่นอุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ในที่มืด จะส่งผลให้ตาบอดได้ค่ะ

ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าเล่นแท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ในที่มืดแล้วทำให้ตาบอด จึงเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง

แต่การเล่นอุปกรณ์เหล่านี้ในที่มืด อาจทำให้เรารู้สึกปวดตาได้ค่ะ เนื่องจากต้องใช้การเพ่งและการจ้องมากขึ้น รวมถึงแสงที่สะท้อน แสงสว่างจ้า จากจอของอุปกรณ์เหล่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตา แสบตา ปวดตา ได้มากขึ้นไปอีก

Computer Vision Syndrome เล่นมือถือในที่มืดทำให้ตาบอด

แสงสีฟ้า อันตราย จริงมั๊ย?

ในแสงที่เรามองเห็น หรือแสงขาว เมื่อนำมาแยกสเปกตรัม เหมือนที่เราเคยทดลองการแยกสเปกตรัมแสงขาวด้วยปริซึมตอนเด็กๆ จะแบ่ง ออกเป็น 7 สีต่อเนื่องกัน คือ สีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ซึ่งจะมีความยาวคลื่นต่างๆกัน

เมื่อกล่าวถึงเรื่องอันตรายต่อดวงตา แสงที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุด คือ แสงสีฟ้า

แสงสีฟ้า นี้ ไม่ใช่สีฟ้าของกระดาษ สีฟ้าของสิ่งของ หรือสีฟ้าทั่วไปที่เรามองเห็นนะคะ แต่คือ สีฟ้าในสเปกตรัมของแสงขาว โดยสีฟ้า จะมีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 400 – 500 nm ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่อยู่ใกล้กับช่วงคลื่นของรังสีอุลตร้าไวโอเลต (UV) 100 – 400 nm

แสงสีฟ้ายังไม่ได้รับการพิสูจน์อย่างแน่ชัดว่าสามารถทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตา แต่แสงอุลตร้าไวโอเลตนั้นพบว่าเป็นอันตรายต่อดวงตาทำให้เกิดโรคต้อลม ต้อกระจก จอตาเสื่อมได้ แต่แสงอุลตร้าไวโอเลตที่อาจจะแฝงมากับแสงสีฟ้านั้น สามารถทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาได้

Computer Vision Syndrome คือ อะไร?

การที่ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์, เล่นแท็บเล็ท และสมาร์ทโฟน เป็นเวลานาน จะส่งผลให้การกระพริบตาตามธรรมชาติลดลง เนื่องจากการที่เราต้องจ้องที่หน้าจออยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ และอาจส่งผลให้เกิด Computer Vision Syndrome ซึ่งส่งผลทั้งต่อดวงตาและร่างกายได้ด้วยค่ะ อาการที่พบบ่อยของโรคนี้ คือ

  1. ปวดตา
  2. ระคายเคืองตา ไม่สบายตา ตาแห้ง
  3. ตาพร่ามัว
  4. ปวดศรีษะ
  5. ปวดคอ และไหล่

สาเหตุที่ทำให้การอ่านหรือการใช้งานคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ไอทีต่างๆ นำไปสู่การปวดตา ตาแห้ง ปวดคอและไหล่ ได้มากกว่าการอ่านหนังสือนั้น เชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกี่ยวข้องกับ ความคมชัดของตัวอักษรในคอมพิวเตอร์, พื้นหลังของตัวอักษร, และแสงที่สะท้อนออกมาจากอุปกรณ์ไอทีมีผลให้การอ่านทำได้ยากกว่า การอ่านตัวอักษรจากบนกระดาษ นอกจากนี้ระยะห่างของดวงตากับอุปกรณ์ไอทีที่ไม่เหมาะสม หรือการวางอุปกรณ์ไอทีบางอย่าง เช่น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟนไว้ระดับต่ำ ทำให้เราต้องใช้งาน อ่านแบบก้มๆ  ก็ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดการหดเกร็ง กระดูกคอเสื่อม ปวดคอ ปวดหลัง ปวดไหล่ ได้เช่นกันค่ะ

มาป้องกัน Computer Vision Syndrome กันเถอะ ด้วย กฎ 20-20-20

ทุก 20 นาที – พักสายตานาน 20 วินาที – มองออกไประยะไกล ประมาณ 20 เมตร

วิธีดูแล ถนอมดวงตา ให้สุขภาพดีไปนานๆ

  1. ควรพักสายตาอย่างน้อย 15 นาที หลังจากใช้คอมพิวเตอร์ยาวนานต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง และใช้กฎ 20-20-20 ร่วมด้วย
  2. ดื่มน้ำเปล่า เพื่อช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ดวงตา
  3. มองไปในที่อื่นไกลๆ มองไปที่เขียวๆ เพื่อพักสายตา
  4. ปรับแสงสว่างให้เหมาะสมให้เหมาะสมกับการทำงาน ไม่มืดเกินไป หรือจ้าเกินไป ให้ทำงานแล้วรู้สึกสบายตา
  5. สวมแว่นตากันแดด เมื่อต้องออกแดดจัด หรือมีกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อป้องกันแสง UV
  6. จัดวางตำแหน่งท่าทางให้เหมาะสมกับการใช้งานอุปกรณ์ไอที

อ้างอิง

บทความ เรื่อง Computer Vision Syndrome

เพิ่มเพื่อน
Share this: